วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คำสมาทานพระกรรมฐาน

08:53
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(๓ จบ)
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ

            ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย

          ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา มีหลวงปู่โต หลวงปู่ทวด หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงปู่ฤษีลิงดำ เป็นที่สุด



            ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐาน ทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙



           จงมาบังเกิด ปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวการณ์ต่าง ๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้


          เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจน แจ่มใสและพยากรณ์ได้ ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้า ได้รู้เหตุนั้นได้โดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คาถาเงินล้าน

23:11

ตั้งนโม ๓ จบ


สัมปจิตฉามิ  นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
พรหมา จะมหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม มิเตพาหุหะติ

พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามาะ พุทธัสสะ สวาโหม
สัมปติจฉามิ เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ


(บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

ขออานิสงส์นี้จงพึงบังเกิดแก้ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาติไทย พระพุทธศาสนา
และพระมหากษัตริย์ ขอให้จงมีความคล่องตัวทั้งทางโลกและทางธรรม
คำว่าไม่มี ไม่ได้ จงอย่าได้ปรากฏ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ



การสวดบทคาถาเงินล้านให้ได้ดี นั้นต้องรักษาศีล 5 ให้ครบทุกข้อ และหมั่นนั่งสมาธิ เจริญภาวนาทุกวัน นอกจากนี้การให้ทำบุญให้ทานนั้นก็สำคัญ



ขอบคุณ ที่มา http://pantip.com/topic/31135706

สีจิตของปุถุชน ผู้ที่ได้ฌาน และพระอริยะ

22:27

 

 สีจิตของปุถุชน

1. จิตที่อยู่ในอารมณ์หวังอามิสอย่างใดอย่างหนึ่ง จิตจะมีสีแดง

2. จิตที่อารมณ์โกรธ อาฆาต พยาบาท จิตจะมีสีดำ

3. จิตที่มีความลุ่มหลง ห่วงใยในทรัพย์สินและสิ่งมีชีวิต จิตจะมีสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ

4. จิตที่มีความกังวล ตัดสินใจอะไรไม่ได้เด็ดขาด มีความวิตกกังวลอยู่เสมอ จิตจะมีเหมือนน้ำต้มถั่วเหลือง หรือน้ำซาวข้าว

5. จิตที่มีอารมณ์น้อมไปในความเชื่อง่ายๆ ไม่ตริตรองทบทวนเหตุผลว่าควรเชื่อหรือไม่ จิตจะมีสีคล้ายดอกกรรณิการ์ คือสีขาว

6. จิตของคนฉลาดรู้ทันเหตุการณ์เสมอ มีปฏิภาณไหวพริบดี จิตจะใสคล้ายแก้ว คล้ายน้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัว


สีจิตของผู้ที่ได้ฌาน

1. ปฐมฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว 1 ใน 4 ของดวงจิต

2. ทุติยฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว ครึ่งหนึ่งของดวงจิต

3. ตติยฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว มีแกนกลางนิดหน่อย

4. จตุตถฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว ทั้งดวงลอยอยู่ในอก


สีจิตของพระอริยะ

1. พระโสดาบัน สีจิตจะใสเป็นประกาย 1 ใน 4 ของดวงจิตมีแกนกลาง

2. พระสกิทาคามี สีจิตจะใสเป็นประกาย ครึ่งหนึ่ง ของดวงจิตมีแกนกลางนิดหน่อย

3. พระอนาคามี สีจิตจะใสเป็นประกายเต็มดวง

4. พระอรหันต์ สีจิตจะใสเป็นดาวทั้งดวง และเป็นประกายพฤกษ์

กายในกาย ตามที่นักเจโตปริยณานต้องการรู้ว่าสัตว์หรือคนตายแล้ว หรือก่อนมาเกิด เป็นอะไร และจะไปเกิดเป็นอะไรมี 4 อย่าง

1. กายอบายภูมิ คล้ายกับคนขอทาน เศร้าหมอง อิดโรย ตายแล้วไปอบายภูมิ 4 มีนรก เปรต อสูรกาย และสัตว์เดรัจฉาน

2. กายมนุษย์ พวกนี้เป็นภาพมนุษย์ชัดเจน ขาวดำต่างกันไป ตายแล้วเกิดเป็นมนุษย์อีก

3. กายทิพย์ คือ พวกเทวดามีลักษณะผ่องใส ถ้าเป็นเทวดาขั้นอากาศเทวดา หรือ รุกขเทวดาขึ้นไปจะทรงเครื่องแพรวพราว พวกนี้ตายไปแล้วไปเกิดเป็นเทวดากามาวงจร

4. กายพรหม คล้ายเทวดาแต่ละเอียดกว่ามีเครื่องประดับสีทอง ตายแล้วเกิดเป็นพรหม

5. กายแก้ว หรือ กายธรรม กายของท่านพวกนี้ เป็นกายพระอรหันต์ จะมีประกายแก้ว กระจายออกทั้งองค์ ท่านต้องเป็นพระอรหันต์ด้วย จึงจะสามารถรู้ได้และเห็นได้


ญาน 8


1. ทิพย์จักขุญาน สามารถเห็นสิ่งของในที่มืด ในที่ปิดบัง เช่น เห็นดวงจิตของคนและสัตว์

2. จุตูปปาตญาน สามารถจะรู้ได้ว่าคนหรือสัตว์ก่อนเกิด มาจากไหน ได้ข่าวคนหรือสัตว์ตาย รู้ได้ว่าเวลานี้ไปอยู่ที่ไหน

3. เจโตปริยญาน เพียงได้ยินชื่อคน เราจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนดีหรือคนเลว กิเลส หนาบางหรือหมดแล้ว

4. ปุพเพนิวาสานุสติญาน สามารถระลึกชาติได้ ไม่จำกัดทุกชาติที่เราเกิด

5. อตีตังคสญาน สามารถรู้เหตุการณ์ในอดีตของตน ของสัตว์ สถานที่ รู้ได้หมดไม่จำกัดเดือนปี

6. อนาคตังญาน สามารถรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา กับสถานที่ กับบุคคล

7. บัจจุบันนังสญาน เวลาที่ใครทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน มีชีวิตอยู่ มีสุข มีทุกข์ประการใด จะรู้ได้

8. ยถากัมมุตาญาน เราก็ดี สัตว์ก็ดี มนุษย์ก็ดี มีความสุข มีความทุกข์ในปัจจุบันเพราะกรรมอะไรเป็นเหตุ

การที่เราสามารถรู้ ญานทั้ง 8 อย่างนี้ เป็นจัยจัยให้ทุกคนตัดมานะ ไม่ยึดถือมั่นในร่างกาย ไม่ยึดถือในทรัพย์สมบัติ เป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลได้ง่าย


กราบนมันสการ พระอำนวย สุมโน หรือหลวงพ่อเพ็ชร พระอาจารย์ปฏิบัติพระกรรมฐาน
สำนักปฏิบัติธรรม สำนักป่าอรัญญวาสี 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี