สีจิตของปุถุชน
1. จิตที่อยู่ในอารมณ์หวังอามิสอย่างใดอย่างหนึ่ง จิตจะมีสีแดง2. จิตที่อารมณ์โกรธ อาฆาต พยาบาท จิตจะมีสีดำ
3. จิตที่มีความลุ่มหลง ห่วงใยในทรัพย์สินและสิ่งมีชีวิต จิตจะมีสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ
4. จิตที่มีความกังวล ตัดสินใจอะไรไม่ได้เด็ดขาด มีความวิตกกังวลอยู่เสมอ จิตจะมีเหมือนน้ำต้มถั่วเหลือง หรือน้ำซาวข้าว
5. จิตที่มีอารมณ์น้อมไปในความเชื่อง่ายๆ ไม่ตริตรองทบทวนเหตุผลว่าควรเชื่อหรือไม่ จิตจะมีสีคล้ายดอกกรรณิการ์ คือสีขาว
6. จิตของคนฉลาดรู้ทันเหตุการณ์เสมอ มีปฏิภาณไหวพริบดี จิตจะใสคล้ายแก้ว คล้ายน้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัว
สีจิตของผู้ที่ได้ฌาน
2. ทุติยฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว ครึ่งหนึ่งของดวงจิต
3. ตติยฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว มีแกนกลางนิดหน่อย
4. จตุตถฌาน สีจิตใสเป็นแก้ว ทั้งดวงลอยอยู่ในอก
สีจิตของพระอริยะ
2. พระสกิทาคามี สีจิตจะใสเป็นประกาย ครึ่งหนึ่ง ของดวงจิตมีแกนกลางนิดหน่อย
3. พระอนาคามี สีจิตจะใสเป็นประกายเต็มดวง
4. พระอรหันต์ สีจิตจะใสเป็นดาวทั้งดวง และเป็นประกายพฤกษ์
กายในกาย ตามที่นักเจโตปริยณานต้องการรู้ว่าสัตว์หรือคนตายแล้ว หรือก่อนมาเกิด เป็นอะไร และจะไปเกิดเป็นอะไรมี 4 อย่าง
1. กายอบายภูมิ คล้ายกับคนขอทาน เศร้าหมอง อิดโรย ตายแล้วไปอบายภูมิ 4 มีนรก เปรต อสูรกาย และสัตว์เดรัจฉาน
2. กายมนุษย์ พวกนี้เป็นภาพมนุษย์ชัดเจน ขาวดำต่างกันไป ตายแล้วเกิดเป็นมนุษย์อีก
3. กายทิพย์ คือ พวกเทวดามีลักษณะผ่องใส ถ้าเป็นเทวดาขั้นอากาศเทวดา หรือ รุกขเทวดาขึ้นไปจะทรงเครื่องแพรวพราว พวกนี้ตายไปแล้วไปเกิดเป็นเทวดากามาวงจร
4. กายพรหม คล้ายเทวดาแต่ละเอียดกว่ามีเครื่องประดับสีทอง ตายแล้วเกิดเป็นพรหม
5. กายแก้ว หรือ กายธรรม กายของท่านพวกนี้ เป็นกายพระอรหันต์ จะมีประกายแก้ว กระจายออกทั้งองค์ ท่านต้องเป็นพระอรหันต์ด้วย จึงจะสามารถรู้ได้และเห็นได้
ญาน 8
1. ทิพย์จักขุญาน สามารถเห็นสิ่งของในที่มืด ในที่ปิดบัง เช่น เห็นดวงจิตของคนและสัตว์
2. จุตูปปาตญาน สามารถจะรู้ได้ว่าคนหรือสัตว์ก่อนเกิด มาจากไหน ได้ข่าวคนหรือสัตว์ตาย รู้ได้ว่าเวลานี้ไปอยู่ที่ไหน
3. เจโตปริยญาน เพียงได้ยินชื่อคน เราจะรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนดีหรือคนเลว กิเลส หนาบางหรือหมดแล้ว
4. ปุพเพนิวาสานุสติญาน สามารถระลึกชาติได้ ไม่จำกัดทุกชาติที่เราเกิด
5. อตีตังคสญาน สามารถรู้เหตุการณ์ในอดีตของตน ของสัตว์ สถานที่ รู้ได้หมดไม่จำกัดเดือนปี
6. อนาคตังญาน สามารถรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา กับสถานที่ กับบุคคล
7. บัจจุบันนังสญาน เวลาที่ใครทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน มีชีวิตอยู่ มีสุข มีทุกข์ประการใด จะรู้ได้
8. ยถากัมมุตาญาน เราก็ดี สัตว์ก็ดี มนุษย์ก็ดี มีความสุข มีความทุกข์ในปัจจุบันเพราะกรรมอะไรเป็นเหตุ
การที่เราสามารถรู้ ญานทั้ง 8 อย่างนี้ เป็นจัยจัยให้ทุกคนตัดมานะ ไม่ยึดถือมั่นในร่างกาย ไม่ยึดถือในทรัพย์สมบัติ เป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลได้ง่าย
กราบนมันสการ พระอำนวย สุมโน หรือหลวงพ่อเพ็ชร พระอาจารย์ปฏิบัติพระกรรมฐาน
สำนักปฏิบัติธรรม สำนักป่าอรัญญวาสี 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น